เมื่อคืนนี้ทองคำปิดปรับตัวลดลง 0.31% เพราะได้รับแรงกดดันจากเทขายของนักลงทุน หลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น จากข้อมูลเศรษฐกิจทางด้านแรงงานและยอดค้าปลีกปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ
ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2383 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2444 ยูโร/ดอลลาร์ และในเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 1.2396 ยูโร/ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลเชิงบวกของสหรัฐฯ
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวลง 3,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 294,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และยังคงเป็นสัญญาณบ่งชี้ล่าสุดว่าตลาดแรงงานยังคงอยู่ในแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขยอดค้าปลีกประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 0.7% จากเดิม 0.5% ในเดือนก่อนหน้า เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ เสื้อผ้า และสินค้าอื่นๆ จากช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังเริ่มต้น
ด้านยอดค้าปลีกสินค้าด้านอื่นๆ (Core Retail Sales) ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันสู่ระดับ 0.5% จากเดิม 0.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นในรอบ 8 เดือน
ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและหลุดระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กรกฎาคม 2009 เพราะได้รับแรงกดดันหลังจาก ทางการคูเวต ประกาศปรับลดราคาขายน้ำมันให้กับกลุ่มลูกค้าในเอเชีย เช่นเดียวกับซาอุดิอาระเบียและอิรัก โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่มกราคม 2015 เป็นต้นไป
มื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์กลับมาปิด +0.36% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้แก่ ยอดค้าปลีกที่ปรับตัวดีขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่คนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง
เช้านี้ ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.64% เพราะได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นดาวโจนส์
ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 – 32.85 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มยังมีโอกาสอ่อนค่าตามการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์
แนวรับ: 1216 1208 1200
แนวต้าน: 1230 1238 1245
ปัจจัยที่น่าติดตามวันนี้
![](https://commodities.langhonggold.com/wp-content/uploads/2014/12/12.12.14.jpg)